ผืนป่าดงดิบชื้นแห่งแดนตะวันออกที่ จันทบุรี

เพื่อนหลายคงรู้ว่าที่จังหวัดจันทบุรีเป็นจังหวัดที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่สูงมากจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย และถือว่าเป็นดินแดนแห่งโอโซนเลยก็ว่าได้นะครับ จันทบุรีมีผืนป่าดิบชื้นผืนใหญ่ และเป็นหนึ่งในสองป่าดิบชื้นของประเทศไทยอีกด้วยเดี๋ยวผมจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับผืนป่าแห่งนี้กันครับ ^^

ในปี พ.ศ. 2543  จันทบุรีมีพื้นที่ประมาณ 2 ล้านกว่าไร่  ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อนุรักษ์  ได้แก่ อช.น้ำตกพลิ้ว  อช.เขาคิชฌกูฎ  วนอุทยานเขาแหลมสิงห์  เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว  และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองพญากัมพุช  ผืนป่านี้เป็นส่วนหนึ่งของป่าดงดิบชื้นผืนใหญ่ของภาคตะวันออกซึ่งกินอาณาเขตพื้นที่หลายจังหวัด  ได้แก่  จ.ชลบุรี  จ.ระยอง  จ.ตราด  และ จ.จันทบุรี

ประเทศไทยมีป่าดงดิบชื้นเพียงสองแห่งอยู่ในภาคใต้และภาคตะวันออก  ซึ่งทั้งสองแห่งมีลักษณะภูมิอากาศคล้ายคลึงกันฝนตกซุก  มีปริมาณน้ำฝนเกิน 1,600 มม.  ต่อปีขึ้นไป  สภาพดินลึกและเก็บความชื้นได้ดี  และมีอุณหภูมิค่อนข้างสูงแลเก็บความชื้นได้ดี  และมีอุณหภูมิค่อนข้างสูง  เฉลี่ย 20 องศาเซลเซียส  ป่าดงดิบชื้นจะมีไม้ไม่ผลัดใบเป็นพรรณไม้หลัก  มักขึ้นอยู่ในที่ราบหรือที่สูงไม่เกิน 600 ม.  จากระดับน้ำทะเล  ไม้เด่นมักเป็นไม้ในวงศ์ยาง  เช่น  ยางนา  ยางแดง  กระบก  ตะเคียนทอง  เป็นต้น  ป่าพื้นล่างแน่นทึบด้วยไม้พุ่มพวกหวาย  ข่าป่า  กระวาน  เร่ว  ฯลฯ  ความอุดมสมบูรณ์ของ

ผืนป่าเมืองจันท์เห็นได้จากการส่งของป่าและเครื่องเทศหลายชนิดเป็นสินค้าออก  ตั้งแต่สมัยอยุธยามา  สินค้าออกที่สำคัญ  คือ  ไม้กฤษณาซึ่งเป็นไม้หอม  และกระวานจากป่าเมืองจันท์ซึ่งถือว่าเป็นกระวานที่ดีที่สุด  นอกจากนี้อาหารป่าก็เป็นสินค้าขึ้นชื่อ  เพราะมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างชุกชุม  ไม่ว่าจะเป็น  เสือ  ช้าง  กระทิง  เก้ง  กวาง  หมูป่า  เลียงผา ฯลฯ  ในอดีตก่อนจะตัดถนนสุขุมวิท  มีการเล่าขานกันว่า  เสือโคร่งจากป่าเขาสระบาปมักลงมาคาบเอาคนในหมู่บ้านไปกินอยู่เนือง ๆ

แม้ช่วงร้อยปีที่ผ่านมาพื้นที่ป่าจะถูกบุกรุกทำลายเพื่อใช้เป็นพื้นที่เกษตรกรรม  เช่น  ทำสวนผลไม้  ทำสวนยางพารา  ไร่มันสำปะหลัง  แต่ก็ยังคงเหลือผืนป่าในเขตอนุรักษ์หลายแห่ง  เป็นต้นธารอันชุ่มเย็นของน้ำตกหลายสาย  เช่น  น้ำตกพลิ้ว  น้ำตกคลองนารายณ์  น้ำตกเขาสอยดาว  น้ำตกกระทิง  ซึ่งเป็นแหล่งพักพิงของสัตว์ป่าหลายชนิดและแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง