เที่ยว ชิม ชมผลไม้เมืองจันทบุรีกับศูนย์วิจัยพืชสวน

นับถอยหลังกันอีไม่นานแล้วที่จังหวัดจันทบุรีจะมีงานใหญ่นั้นคือ งานมหกรรมทุเรียนโลก ในงานก็จีมีผลไม้ให้ ชม ชิม กันอย่างจุใจ แต่วันนี้ผลมีสถานที่แนะนำอีก 1 ที่เป็นที่ๆน่าสนใจมากเหมือนกันครับที่นั้นก็ คือ ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี เป็นที่รู้จักกันว่าจันทบุรีเป็นจังหวัดที่มีผลไม้หลากหลายที่สุดจังหวัดนึง ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรีเป็นที่รวมเอาผลไม้นาๆชนิดไว้ด้วยกันแถมมีเจ้าหน้าที่แนะนำตลอดการเที่ยวชมที่นี้ อีกอย่างที่นี่บรรยากาศดีมากครับ ไปดูกันเลยครับ

มีเนื้อที่ 280 ไร่ มีหน้าที่รับผิดชอบในการค้นคว้าวิจัยเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาพืชสวนเศรษฐกิจของจังหวัดจันทบุรี ที่สำคัญในเขตภาคกลางและภาคตะวันออก มีแปลงทดลองปลูกพืชสวนชนิดต่าง ๆ อาทิ ทุเรียน เงาะ มังคุด ระกำ กระท้อน(น่ากินทั้งนั้น^^) รวมไปถึงพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ สมุนไพรและเครื่องเทศ นอกจากนั้นทางศูนย์ฯ ได้จัดเส้นทางเดินชมสวนพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ สวนสมุนไพร และพืชสวน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที และได้จัดพื้นที่กางเต็นท์ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาที่ ศูนย์วิจัยพืชสวนจังหวัดจันทบุรี โดย ทางศูนย์มีเต็นท์ให้ เช่า ราคาเต็นท์ละ 100-200 บาท พักได้ 1-3 คน ทางศูนย์ยินดีที่จะเผยแพร่งานเหล่านี้ให้แก่เกษตรกรและผู้สนใจทั่วไป โดยอนุญาตให้เข้าชมเป็นหมู่คณะ และควรติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ โทร. (039) 397-030, (039) 397-146 ในวันและเวลาราชการนอกจากนั้น ระหว่างเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคมของทุกปี จะเป็นช่วงที่ผลไม้พันธุ์ต่าง ๆของจังหวัดจันทบุรี ออกผล เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ระกำ สละ ลองกอง เป็นต้น ซึ่งจะมีสวนในอำเภอต่าง ๆ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและชิมผลไม้สด ๆ จากต้น แบบหาที่ไหนไม้ได้อีกแล้วครับมาถึงถิ่นที่ๆเรียกว่าเมืองผลไม้โอกาศแบบนี้พลาดไม่ได้นะครับ

ประวัติและที่ตั้งศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี ก่อ ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2525 ภายใต้โครงการวิจัยเกษตร แห่งชาติ กรมวิชาการเกษตร เดิมใช้ชื่อว่า ศูนย์วิจัยพืชสวนราชบุรี ต่อมาในปี พ.ศ. 2529 จึงได้ย้ายที่ตั้งมาอยู่ที่สถานีทดลองพืชสวนพลิ้ว และเปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี   สังกัด กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ศูนย์ วิจัยพืชสวนจันทบุรี ตั้งอยู่ตำบลตะปอน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี  ติดถนนสุขุมวิท เส้นทางจันทบุรี-ตราด ห่างจากตัวเมืองจังหวัดจันทบุรี 15 กิโลเมตร  และห่างจากกรุงเทพมหานคร 269 กิโลเมตร  มีพื้นที่ภายในศูนย์ฯทั้งสิ้น 206 ไร่ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับปฏิบัติงานวิจัยที่ศูนย์พัฒนาไม้ผลเศรษฐกิจภาค ตะวันออก (ห้วยสะพานหิน) จำนวน 897 ไร่ และพื้นที่ภายในศูนย์บริการวิชาการด้านพืช และปัจจัยการผลิตจันทบุรี จำนวน 300 ไร่ สภาพพื้นที่โดยทั่วไปภายในศูนย์ฯ เป็นที่ราบ มีความลาดเอียง 2% ในแนวตะวันออก-ตะวันตก  อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 24 เมตร สภาพดินเป็นดินร่วนปนทราย (ชุดภูเก็ตและชุดสงขลา) มีความเป็นกรด-ด่าง ประมาณ 4.0-4.5

น่าสนใจยิ่งไปช่วงเดือนที่ใกล้จะถึงนี้ไม่มีผิดหวังกันอย่างแน่นอน แต่อากาศช่วงนี้จะร้อนไปสักหน่อยแต่สำหรับที่จันทบุรีผมว่ายังไงก็ดีกว่ากรุงเทพฯมากมาย(จะร้อนไปไหนครับนี่) รักษ์โลกกันไว้นะครับก่อนอะไรอะไรร้ายแรงกว่านี้จะเกิดขึ้น หน้าหนาวสั้นลง หน้าร้อนยาวขึ้น คิดถึงเมื่อสิบปีทั้แล้วจริงๆ เที่ยวสนุกแบบรักษาธรรมชาตินะครับ